Slide background
Slide background
Slide background
Slide background

อาการคันตามผิวหนังเกิดจากอะไร แพทย์มีวิธีการวินิจฉัยอย่างไร

โพสต์เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2557 เวลา 10:32:11 | มุมสุขภาพ (Health Update)

  • 34461 ครั้ง

 

ผิวหนังที่ดีย่อมเป็นที่ปราถนาของทุกคน แต่หากผิวหนังขึ้นผดผื่นและมีอาการคันจะทำยังไง อาการคันผิวหนังนำมาซึ่งความรำคาญและทำให้เสียบุคลิค รวมไปถึงยังทำร้ายผิวของเราอีกด้วย

................................................................

          อาการคันตามผิวหนังเกิดจากอะไร แพทย์มีวิธีการวินิจฉัยอย่างไร

................................................................

          คงต้องบอกว่าอาการคันผิวหนังนั้น เป็นอาการแสดงที่ไม่ได้ เฉพาะกับโรคใด โรคหนึ่งเท่านั้น สาเหตุของการคันมีมากมาย ในที่นี้ หมอขอแบ่งเป็น 2 ชนิดคือ

         เกิดจากความผิดปกติ ของผิวหนังบริเวณที่คันเองการคันประเภทนี้ มักมีผื่นร่วมด้วย ซึ่งการพบแพทย์ผิวหนัง จะสามารถให้การวินิจฉัยแบบเฉพาะเจาะจงลงไปได้ถึงสาเหตุ เช่น

          -  จากการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัส อาการทำให้เกิดอาการคันได้ทั้งสิ้น แต่ลักษณะผื่นจะแตกต่างกัน เช่น เชื้อราที่ลำตัว ผื่นจะมีลักษณะเป็นวง ขอบแดงนูน หรือการติดเชื้อไวรัสเช่นเริม หรืองูสวัสดิ์ ผื่นจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม หรือแม้กระทั่งโรคหิด โรคนี้จะมีอาการคันที่รุนแรงโดยเฉพาะเวลากลางคืน มีผื่นขึ้นตามซอกนิ้ว โรคในกลุ่มนี้สามารถติดต่อได้ หากสงสัยควรมาพบแพทย์โดยเร็วก่อนที่จะแพร่กระจายไปให้คนอื่นที่บ้าน


         - ผิวหนังอักเสบ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นโรคที่ถูกวินิจฉัยมากที่สุด คนไข้ส่วนใหญ่มักไปซื้อ steroid มาทาเองและพบว่าอาการทุเลาลง แต่หากเราไม่หาสาเหตุของโรคนี้ ก็คงเหมือนกับเรามีพยาธิแล้วซื้อแต่ยาถ่ายพยาธิ มาทาน โดยไม่ได้ไปเปลี่ยนพฤติกรรมของเรา เราก็จะเป็นโรคนี้เป็นๆหายๆ ตลอดเวลา ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคค่อนข้างหลายหลาก เช่นเกิดจากภูมิแพ้ภายในร่างกาย การแพ้สัมผัส เป็นต้น ตำแหน่งและลักษณะของผื่นนั้นมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่สาเหตุ การพบแพทย์เพื่อทำการทดสอบสาเหตุที่แน่นอนได้


          - ลมพิษ บ่อยครั้งที่คนไข้มาหาแพทย์ด้วยอาการคันผิวหนัง ให้ประวัติว่ามีผื่นนูนแดง เป็นๆหายๆ เวลามาพบแพทย์ผื่นหายไป แต่กลับไปบ้านกลับมีผื่นขึ้นใหม่ นั่นนับเป็นธรรมดาของโรคนี้ โดยทั่วไปลมพิษนั้น อาการจะเป็นๆหายๆ แต่ละผื่น ไม่เกิน หนึ่งวัน และหายโดยไม่มีรอยดำ ทั้งนี้หากเป็นเพียงลมพิษเฉียบพลัน อาการเป็นไม่เกิน 6 อาทิตย์ อาจไม่จำเป็นต้องหาสาเหตุ เพียงแต่ทานยาแก้แพ้ และหลีกเลี่ยงอาหาร หรือยาบอกชนิดที่สามารถกระตุ้นได้ก็พอ แต่หากเป็นนานเกิน 6 สับดาห์แล้ว คงต้องหาสาเหตุอีกครั้งหนึ่งคะ


          - โรคผิวหนังอื่นๆ เช่นสะเก็ดเงิน โรคผิวแห้ง โรค lichen planus ซึ่งแต่ละโรคมีลักษณะผื่นและการรักษาที่ต่างกันออกไป


            เกิดจากความผิดปกติภายในร่างกาย โรคในกลุ่มนี้อาจไม่มีลักษณะเฉพาะที่ผิวหนัง หากแต่มีแต่รอยการเกาเท่านั้น โรคภายในร่างกายที่สามารถทำให้เกิดอาการคันได้เช่น


          - โรคพยาธิ

          - โรคเรื้อรังต่างๆ หรือโรคประจำตัวเช่น โรคเบาหวาน โรคไตวาย โดยเฉพาะในคนที่คุมเบาหวานไม่ค่อยดี จะมีอาการคันตามตัวได้มาก

         - โรคดีซ่านจากการอุดตันของทางเดินน้ำดี โดยคนไข้อาจมีอาการตัวเหลือง ตาเหลืองร่วมด้วย บางคนอาจสังเกตว่ามีอุจจาระที่สีซีดขาว ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม

          - โรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง จะพบอาการคันได้มากกว่ามะเร็งชนิดอื่น

           - โรคจิต ก็ทำให้เกิดอาการคันได้

         

    แล้วเมื่อไหร่จึงควรมาปรึกษาแพทย์

          หมออยากแนะนำว่าหากมีผื่นขึ้น ควรมาให้แพทย์ผิวหนังดูเพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่แน่นอนก่อน ไปซื้อยามาทาเอง เพราะการทายาไม่ว่าจะเป็น steroid หรือยาทาฆ่าเชื้อรา สามารถทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง อยากต่อการวินิจฉัยหรือรักษาต่อไป
         แต่หากเป็นการคันที่ไม่ได้มีผื่นอะไรชัดเจน อาการคันนั้นอาจเกิดจากผิวแห้ง หรือถูกสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองนิดหน่อย อาจลองทา moisture เพื่อบรรเทา อาการไปก่อนได้ เช่นกันกับลมพิษ หากเป็นเพียงลมพิษเฉียบพลัน คนไข้อาจไปซื้อยาแก้แพ้มาทานเองที่บ้าน แต่หากเป็นนานเกิน 6 สัปดาห์ หรือมีอาการปากบวม ตาบวม หายใจขัด ต้องมาพบแพทย์โดยทันที เพราะอาการเหล่านี้รุนแรงถึงเสียชีวิตได้

 

    เราสามารถป้องกันตัวเองได้อย่างไร

         ทั้งนี้ขึ้นกับสาเหตุของโรค เช่นหากสาเหตุของการคันเกิดจากผิวแห้งซึ่งพบมากในคนสูงอายุ หรือคนที่มีโรคประจำตัว เช่นโรคไตวายเรื้อรัง เมื่อผิวหนังแห้ง จะเปราะบาง และอาจแตกเป็นแผลได้ ทำให้สิ่งแปลกปลอมภายนอกเข้าไปในร่างกายได้ง่าย การรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวหนังมีความสำคัญมาก เริ่มจากการหลีกเลี่ยงสารระคายเคือง เช่น ผ้าขนสัตว์ผ้าเนื้อหยาบ เช่นผ้าโพลีเอสเตอร์ ไนล่อน สารต่างๆที่มีกลิ่นหอม เช่นน้ำยาระงับกลิ่นกาย

          ในบางคนอาจมีปัญหาจาการแพ้สัมผัสสารต่างๆชนิดกัน โดยมากอาการจะเกิดผื่นเฉพาะบริเวณที่เราสัมผัส เช่นตามติ่งหู สายนาฬิกา การทดสอบด้วย patch test สามารถบอกได้แน่นอนว่า เราแพ้สารชนิดใด เพื่อเราจะได้หลีกเลี่ยงได้ถูกต้อง ในบางครั้งอาจจำต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดด้วย

          นอกจากการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นแล้ว การทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำก็มีความสำคัญมาก แต่เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน บางคนมีผิวที่แห้งมาก จำเป็นต้องใช้ครีมบำรุงเฉพาะ โดยอาจการใส่มีสารต้านการระคายเคืองในครีมบางชนิดด้วย ควรทาครีมบำรุงผิวตลอดทั้งวัน ทันทีที่รู้สึกว่าผิวแห้งคัน หรือทันทีที่อาบน้ำเสร็จ หลังจากเช็ดตัวหมาดๆด้วยผ้าขนหนูแล้ว ให้ทาครีมบำรุงทันที เพื่อเพิ่มความสามารถในการดูดซึมครีมเข้าทางผิวหนังมากขึ้น

 

     แล้วการทำความสะอาดร่างกาย ควรทำอย่างไร

          แปลกแต่จริง ยิ่งทำความสะอาดร่ายกายด้วยสบู่ สบู่ยา หรือการเช็ดแอลกอฮอล์ ยิ่งทำให้ผิวหนังยิ่งแห้งมากขึ้น นั่นเพราะสาเหตุของการคันจากผิวแห้งนั้นไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แถมการที่เราใช้ยาหรือแอลกอฮอล์ยิ่งไปทำลายสมดุลของเชื้อแบคทีเรียประจำถิ่นของเราไป ซึ่งเปรียบเหมือนทหารประจำเมืองเราตายไป ทำให้เชื้อภายนอกหรือศัตรูรุกรานได้มากขึ้น จากแค่ปัญหาผิวแห้ง จะแทรกซ้อนด้วยการติดเชื้อร่วมด้วย

          มีหลายคนที่ชอบล้างหน้า หรือทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่แรงๆ หวังให้สะอาดล้ำลึก แต่หากเปรียบเทียบกับรถยนต์แล้ว ไม่มีใครพยายามขูดหรือใช้น้ำยารุนแรงเพราะกลัวสีหลุด แถมเรายังเคลือบเงารถ เพื่อให้สีรถสวยอยู่คงนาน หากคิดเปรียบกับผิวหนังเรา ผิวหนังเราบอบบางกว่าสีรถมาก การขัดถูแรงๆ ย่อมทำให้ผิวหนังเกิดความระคายได้ง่าย แถมเรายังไม่เคลือบเรา หรือทาครีมบำรุงอีก

 

         สุดท้ายนี้ในช่วงหน้าฝน แพทย์มีคำแนะนำในการปฏิบัติตัวอย่างไร

          ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน อากาศค่อนข้างชื้น ทำให้มีโอกาสเกิดโรคผิวหนังจากเชื้อรา และ ยีสต์ได้ง่าย โดยมากผื่นจะเกิดบริเวณอับชื้นเช่นใต้ราวนม ขาหนีบ หรือง่ามนิ้วเท้า แถมเสื้อผ้ามักมีปัญหาความอับชื้น การดูแลความสะอาด ใส่เสื้อผ้าโปร่ง สบาย ชุดชั้นใน หรือเสื้อผ้าก็ควรตากแดดให้แห้งก่อนสวมใส่ สำหรับผู้ที่มีผื่นเกิดขึ้นบริเวณดังกล่าวแล้วอย่าละเลยนะคะ หมอรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการขูดพิสูจน์ว่าผื่นที่เกิดขึ้น นั้น เป็นผื่นจากเชื้อราหรือไม่ เพราะเชื้อราแต่ละชนิดและแต่ละประเภทล้วนมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป

          สุดท้ายนี้หมออยากฝากไว้ว่า การคันไม่ว่าเกิดจากสาเหตุใดนั้น สามารถกระตุ้นได้จากการเกา อย่างคัน ยิ่งเกา ยิ่งมีผื่นคันนะคะ หากเรารู้สึกคันเมื่อใด ให้นำครีมบำรุงมาทาบ่อยๆแทนการเกาคะ

 

...................................................................................

 

 

ที่มา................365healthyday

แชร์ข่าวนี้ :
Top